เมนู

เปรียบดุจคนอดอาหาร ต้านทานอาหารไม่ได้ฉะนั้น เหตุฉะนี้แหละฆราวาสที่ได้พระอรหัตจึง
ต้องบรรพชาเสีย หรือนิพพานเสียในวันนั้น นะบพิตรพระราชสมภาร
อีกประการหนึ่งเล่า เปรียบอุปมาดุจกลุ่มหญ้าอันน้อยนักบุคคลจะเอาศิลาอันหนักทับลง
กลุ่มหญ้าอันน้อยมิอาจทนทานศิลานั้นได้
ประการหนึ่ง เปรียบดังบุคคลประกอบได้บุญอันน้อย ได้สมบัติอันเป็นอิสรภาพแล้ว
มิอาจปราบดาภิเษกครองราชสมบัติได้ ไม่คู่ควรที่จะครองราชสมบัติ ก็บังเกิดความฉิบหาย
อันตรายต่าง ๆ ถึงกับต้องประหารชีวิตทนเวทนาสาหัส จะโทษสมบัติว่า สมบัติร้อนพาให้อายุ
นั้นหรือประการใดเล่า ขอถวายพระพร
พระเจ้ากรุงมิลินท์ภูมินทราธิบดีมีพระราชโองการตรัสว่า ภนฺเต ข้าแต่พระผู้เป็นเจ้า จะ
โทษเอาสมบัติว่าราชสมบัติร้อนหาชอบไม่เลย ฝ่ายผู้นั้นบุญน้อยไม่ควรที่จะเสวยจึงเป็นอันตราย
ฉิบหายต่าง ๆ จนถึงอาสัญ
พระนาคเสนจึงถวายพระพรว่า ความนี้ฉันใดก็ดี อันว่าภูมิเพศฆราวาสนี้ต่ำช้า มิควรที่
จะครองพระบวรวิมุตติเศวตฉัตรได้ แม้สำเร็จพระอรหัตตัดกิเลสวันใดแล้ว ก็ควรบวชเข้าในบวช
พุทธศาสนาในกาลวันนั้น เหตุว่าเพศบรรพชิตนี้สมควรที่จะทรงซึ่งพระบวรวิมุตติเศวตฉัตรได้
พระบวรวิมุตติเศวตฉัตรคือพระอรหัตมรรคพระอรหัตผล เพศฆราวาสนั้นทุพพลมิอาจทรงได้
ขอถวายพระพร
ราชา ฝ่ายสมเด็จพระเจ้ามิลินท์ภูมินทรราช ได้ทรงฟังโอวาทวิสัชนาก็ซ้องสาธุการ
ต่าง ๆ สรรเสริญพระนาคเสนว่าประกอบด้วยญาณปรีชา
คีหิอรหัตตปัญหา คำรบ 3 จบเพียงนี้

โลมกัสสปปัญหา ที่ 4


ราช อาห

สมเด็จพระเจ้ามิลินท์ภูมินทรมหากษัตริย์มีพระราชโองการตรัสถามปัญหา
อื่นสืบไปเล่าว่า ภนฺเต นาคเสน ข้าแต่พระนาคเสนผู้เป็นเจ้าอันประกอบด้วยวรปรีชา สมเด็จ
พระบรมโลกนาถศาสดาจารย์ มีพระพุทธฎีกาว่าดังนี้ ภิกฺขเว ดูรานะภิกษุสงฆ์ทั้งหลาย เมื่อ
ตถาคตยังขวนขวายสร้างพระบารมี พระบารมียังอ่อนอยู่นั้น ได้เสวยพระชาติเป็นมนุษย์เป็นอวิ-